สุดรันทด! 2 เด็กหญิงถูกทิ้งอยู่กับตายาย ต้องกินข้าววัดประทังชีวิต ชุดนักเรียนมีแค่เพียงชุดเดียว
28 มิถุนายน 2566 ที่ จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดน้ำคอกใหม่ (ดอนขุดทอง) ต.น้ำคอก อ.เมืองระยอง หลังได้รับทราบจากชาวบ้าน เกี่ยวกับความยากลำบากของ ด.ญ.อายุ 11 ปี และน้องสาว วัย 2 ขวบ ที่อาศัยอยู่กับตายาย โดยทางเจ้าอาวาสวัดน้ำคอกใหม่ ให้ที่พักอาศัยอยู่ในวัด และอาศัยข้าวก้นบาตรพระ เพื่อประทังชีวิต
เมื่อเดินทางไปถึงวัดน้ำคอกใหม่ พบกับ พระอธิการเกรียงไกร ชยุตฺตโม เจ้าอาวาสวัดน้ำคอกใหม่ (ดอนขุดทอง) ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า อาตมาได้ให้ นายชัย ทองสุข อายุ 59 ปี กับ นางดาหวัน ทาทอง อายุ 62 ปี ภรรยา และ หลานสาวสองคน พักอาศัยอยู่ในห้อง ภายในอาคารศูนย์เด็กเล็กเก่า ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่วัด โดยมาอาศัยอยู่ 2 ปีกว่าแล้ว
โดยทางวัดได้ว่าจ้างให้นายชัย ทำงานก่อสร้าง ศาลาการเปรียญภายในวัด จ้างวันละ 400 บาท นอกจากนี้ยังให้กับข้าวที่บิณฑบาตมาได้ไปกินทุกวัน แต่ทั้งสองคน ก็ไม่เคยมาบอกถึงความลำบาก โดยไม่ทราบเรื่องของหลานสาว ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 ว่า มีชุดนักเรียนเพียงชุดเดียว ที่ต้องซักทุกวัน และใช้พัดลมเป่าให้แห้งทันใส่ไปโรงเรียน ซึ่งหลังจากทราบเรื่อง ทางวัดก็จะหาทางช่วยเหลือต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่อาคารศูนย์เด็กเล็กเก่า ซึ่งแบ่งเป็นห้องทั้งหมด 4 ห้อง พบกับ นางดาหวัน และ ด.ญ.สุนันทา อ่ำส้ม หรือ น้องฟาน อายุ 11 ปี รวมถึง น้องข้าวฟ่าง อายุ 2 ขวบ น้องสาว ที่อาศัยอยู่ในห้องพักห้องแรก ภายในห้องเป็นห้องโล่ง มีเพียงเสื่อรองที่นอนพร้อมด้วยมุ้ง และเครื่องครัวกับพัดลม 1 ตัว พร้อมกับเสื้อผ้าที่แขวนไว้กับราวไม้ไผ่ โดยห้องน้ำแยกออกไปด้านนอก เป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน กับผู้ที่พักอยู่ในห้องพักอีกสองห้อง
นางดาหวัน เปิดเผยว่า ตนเองกับสามี เป็นตายายของ น้องฟาน และ น้องข้าวฟ่าง ที่เกิดจากบุตรสาว โดยบุตรสาวได้ทิ้งลูกสาวไปตั้งแต่ น้องข้าวฟ่าง อายุเพียง 2 เดือน ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ กว่าสองปีแล้ว ลูกสาวและลูกเขย ไม่เคยมาหาเลย โดยไม่ได้ติดต่อมาเลย สงสารหลานทั้งสองคนมาก ต้องอาศัยข้าวก้นบาตร จากเจ้าอาวาส ที่ให้ทุกเช้า
นางดาหวัน กล่าวว่า ทุกวันนี้มีรายได้จากสามีทางเดียว จากการทำงานก่อสร้าง วันละ 400 บาท และเงินผู้สูงอายุของตนเองได้เดือนละ 600 บาท ซึ่งตนเองไม่สามารถทำงานได้ เพราะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จากความเครียดที่เกิดจากเรื่องเงินที่ไม่พอใช้จ่าย เห็นหน้าหลานทั้งสองคน ก็คิดมากเพราะสงสารหลาน

โดยเฉพาะ น้องฟาน ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดน้ำคอก (ราษฎร์อนุกูล) มีชุดนักเรียนเพียงชุดเดียว เพราะไม่มีเงินซื้อให้ หลังเลิกเรียนต้องรีบถอดออกมาซัก แล้วใช้พัดลมเป่า เพื่อให้แห้งทันใส่ไปเรียนในวันถัดไป ไม่มีเงินปักชื่อบนเสื้อนักเรียน ครูก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนชุดพละรองเท้ากีฬาก็ไม่มีใส่ ใส่ชุดนักเรียนแทน ทุกวันนี้ไม่คาดหวังว่า ลูกสาวแม่ของเด็กทั้งสองคนจะกลับมา ถึงจะอดมื้อกินมื้อ แต่ตนเองกับสามีก็จะขอดูแลหลานทั้งสองคนต่อไป
นางดาหวัน เปิดเผยต่อว่า ที่ผ่านมาน้องฟานสงสารตนมาก จึงให้ตนเขียนจดหมาย เพื่อจะส่งจดหมายขอความช่วยรายการข่าวรายการหนึ่ง แต่ก็ไม่รู้จะส่งอย่างไร และตนก็เครียดมากที่ไม่มีเงิน ถึงขั้นนำเชือกมาเตรียมผูกคอตาย แต่พอเห็นหน้าหลานทั้งสองคนก็ทำไม่ได้ เพราะหากตนเองตายไป หลานจะอยู่อย่างไร ยังโชคดีที่ท่านพระอธิการเกรียงไกร เจ้าอาวาสวัดน้ำคอก ให้ความเมตตา ให้ที่พักอาศัย ให้งานสามีทำ รวมถึงอาหารจากบิณฑบาตที่ให้ไปเอามากินทุกวัน
นางดาหวัน กล่าวว่า ตนทำได้เพียงช่วยกวาดลานวัด เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณ เจ้าอาวาสที่ช่วยเหลือ จึงไม่กล้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลืออย่างอื่น เพราะเท่าที่ทางวัดช่วยเหลือ ก็ถือว่ามากพอแล้ว ถ้าไม่มีที่อยู่ก็ยังไม่รู้เลยว่า ชีวิตตนเองและหลานจะไปอยู่ที่ไหน สิ่งที่ต้องการก็คือ ต้องการให้หลานทั้งสองคนได้เรียนสูง ๆ ที่ผ่านมาเคยมีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ มอบเงินให้จำนวน 3,000 บาท แล้วก็เงียบหายไป จึงขอวิงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือหลานสาวด้วย
ขณะที่ ด.ญ.ฟาน อายุ 11 ปี ได้ เปิดเผยว่า สงสารตากับยายมาก ไม่เคยอายที่ตายายยากจน สิ่งที่อยากได้ คือ ชุดนักเรียน ชุดพละ และรองเท้ากีฬา จะได้มีใส่เหมือนเพื่อน ในการเรียนวิชาพละ เมื่อถามว่า คิดถึงแม่และอยากเจอพ่อกับแม่ไหม โดยไม่มีคำตอบ มีเพียงน้ำตาคลอเบ้า
น้องฟาน ยังบอกต่ออีกว่า อยากเรียนจบสูง ๆ เรียนจบแล้วจะได้มีงานทำ มีเงินมาดูแลตายายและน้องสาว แต่ทุกวันนี้ ทำได้ก็เพียงช่วยเหลือทำงานบ้านช่วยยาย เพราะยายป่วย ต้องไปพบแพทย์และกินยาเป็นประจำ
สำหรับผู้ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ สามารถให้ความช่วยเหลือโดยตรงได้ที่ วัดน้ำคอกใหม่ (ดอนขุดทอง) หากต้องการบริจาคเงินช่วยเหลือ สามารถช่วยเหลือได้ที่ บัญชี นางดาหวัน ทาทอง ธนาคารกรุงไทย สาขาบิ๊กซีระยอง หมายเลข 759-0-47812-1